การร้องเรียน / การอุทธรณ์ ตาม พรบ.จัดซื้อจัดจ้าง 2560
การร้องเรียน / การอุทธรณ์ ตาม พรบ.จัดซื้อจัดจ้าง 2560
โดย อ.เพชร โพสาราช
.. .หลักคิด/ข้อพิเคราะห์.... (เขียนยาวนะ/แต่มีประโยชน์....)
การร้องเรียน และการอุทธรณ์
ในกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง..ตาม พรบ. 2560
.. เคสประกอบ....
ผอ.กองคลัง บอกว่า...มีผู้ใช้ชื่อแฝงว่า" ประชาชนผู้รักความถูกต้อง" ในพื้นที่ อบต..............ได้ทำหนังสือร้องเรียบนไปท่ีอำเภอว่า....อบต.ดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างโดยไม่โปร่งใส ไม่มีการประกาศให้ผู้รับจ้างในพื้นที่ หรือประชาชนได้รับทราบ ..งบประมาณ โครงการละ 1 แสน 2 แสน 3 แสน งบประมาณจ่ายขาดเงินสะสม.เกือบ 10 โครงการ จัดซื้อจัดจ้างในช่วงเดือน กันยายน- ตุลาคม 2560 ผู้รับจ้างมีแต่พวกพ้องของผู้บริหาร...การทำงานก็ไม่คุณภาพ งานแล้วเสร็จล่าช้า...ฯลฯ..
และอำเภอ มีหนังสือแจ้ง ให้ อบต.ตรวจสอบ/ชี้แจงให้อำเภอทราบ........และปลัด อบต. ส่งเรื่อง มาให้ (หนู) ผอ.กองคลัง ชี้แจงไปอำเภอ.......เหนื่อยค่ะ..ไม่อยากเป็น ผอ.กองคลัง แล้ว.... เห็นเพื่อนๆ ผอ.กองคลัง หน่วยงานอื่นๆ (อบต./เทศบาลอื่น) ไม่เหนื่อยเหมือนหนูเลย อาจารย์.....
.....................อยากทราบว่า... หนูจะต้องชี้แจงอย่างไร..ไปอำเภอ...
ตอบ...อ้าว..เมื่อเหนื่อย..หรือละเ * * * ่ยใจ ....
ยังนึกถึงเนาะ.......ทั้งๆ ท่ีไปอบรมหรือไปฟังผมบ่น ครั้งเดียว...
และนั่งฟังแบบ หลับๆ ตื้นๆ..............
เสริมความรู้ หรือข้อพิเคราะห์ ให้เพื่อนๆ ดังนี้ ครับ
......การร้องเรียน หรือการอุทธรณ์ ตามหลักแห่งนัย พรบ.จัดซื้อจัดจ้าง...2560 และระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้าง..2560 วางหลัการไว้....
ข้อ1 การร้องเรียน.............หมวด 10 แห่งระเบียบ ข้อ 220-223 ใคร/ผู้ใด..(ใครก็ได้..) ท่ีเห็นว่า....หรือรู้ว่า.... หน่วยงานของรัฐ มิได้ปฏิบัติให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ ที่กำหนดไว้ใน กฏหมาย กฏกระทรวง ระเบียบ หรือประกาศ ที่ออกตาม พรบ.จัดซื้อจัดจ้าง 2560....ผู้นั้นมีสิทธิ ร้องเรียนไปยังหน่วยงานของรัฐนั้นๆ (อบต./เทศบาล หรือ อบจ.นั้นๆ) หรือคณะกรรมมการพิจารณาอุทธรณ์...
ขั้นตอนการร้องเรียน..../ข้อปฏิบัติ
(1) ให้ยื่นคำร้องเรียน/ส่งคำร้องเรียน ภายใน 15 วัน นันแต่วันที่รู้ หรือควรรู้ ว่าหน่วยงานนั้นกระทำผิด..(หรือมีพฤตคิกรรม....อาจกระทำผิด)
(2)การร้องเรียน ต้องทำเป็นหนังสือ ลงลายมือชืิ่อผู้ร้องเรียน (ระบุชื่อ-สกุล ให้ชัดเจน)
(3) หนังสือร้องเรียน ต้องใช้ถ้อยคำที่สุภาพ
(4) ต้องระบุข้อเท็จจริง และเหตุผลหรือพฤติกรรม อันเป็นเหตุให้ร้องเรียนให้ชัดเจน
(5) พร้อมแนบเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องไปด้วย
(6) หน่วยงานของรัฐนั้นๆต้องพิจารณา ข้อร้องเรียนโดยเร็ว และแจ้งผลการพิจารณาให้ผู้ร้องเรียนโดยเร็ว พร้อมแจ้งให้คณะกรรมมการพิจารณาอุทธรณ์ทราบด้วย
(7) คำวินิจของคณะกรรมมการพิจารณาอุทธรณ์ ถือเป็นที่สุด...............
ฉะนั้น คำร้องเรียน ของบุคคลใด/ ผู้ใด ท่ีี่ร้องเรียน ที่ร้องเรียนไปที่หน่วยงาน...นั้นๆ ในเรื่องเกี่ยวกับกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง....ต้องชัดเจนพอสมควร....
ผู้ร้องเรียน ต้องลงลายมือชื่อ......จะใช้"นามแฝง" เหมือนในอดีตคงไม่ถูกต้องต้องนัก......ต้องมีองค์ประกอบ ตามข้อ (1)-(5) เป็นอย่างน้อย จึงจะถือว่าเป็นคำร้องเรียนที่สมบูรณ์ สมควรรับไว้พิจารณา หรือดำเนินการตรวจสอบ..และจะได้แจ้งผลการตรวจสอบให้ผู้ร้องเรียนได้ถูกต้องด้วย.......
จากเคสที่จั่วหัวไว้. .ข้างต้น กรณีร้องเรียน ข้อมูลครบถ้วนหรือไม่...หากเห็นว่าข้อมูลไม่ครบถ้วนตามองค์ประกอบ และอาจไม่สามารถตรวจสอบได้ชัดเจน ก็ต้องแจ้งอำเภอไป ว่าสมควรรับไว้พิจารณา หรือไม่....อย่างไร.......
(มิใช่ว่า มีข้อร้องเรียน แล้วจะต้องดำเนินการทุกกรณีไป..ก็อาจไม่ถูกต้องนัก....เพราะในท้องถิ่นนั้น มีการร้องเรียนในลักษณะกลั่นแกล้งกันบ่อยๆ.....)
..................................................................
..........ข้อ 2 การอุทธรณ์ ตามนัยแห่ง พรบ.จัดซื้อจัดจ้าง 2560 มาตรา 66 วรรสอง และ มาตรา 114-119 คือ..
(1) ผู้ซึ่งได้ยื่นข้อเสนอเพื่อทำการจัดซื้อจัดจ้างพัสดุกับหน่วยงานของรัฐมีสิทธิอุทธรณ์ เกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้างพัสดุ.......
แปลว่า..ผู้มีสิทธิอุทธรณ์จะตค้องเป็นผู้ที่ได้เข้ายื่นข้อเสนอเท่านั้น..
(2) จะอุทธรณ์ในเรื่องดังต่อไปนี้ ไม่ได้.....คือ
2.1 การเลือกใช้วิธีการจัดซื้อจัดจ้าง
2.2 หลักเกณฑ์การคัดเลือก/การพิจารณาในการจัดซื้อจัดจ้าง
2.3 การยกเลิกการจัดซื้อจัดจ้าง กรณี
-ไม่งบประมาณเพียงพอ
-มีการขัดขวางการแข่งขันเสนอราคา
-เพื่อประโยชน์สาธารณะ
2.4 กฏกระทรวงที่ไม่ให้ใช้สิทธิอุทธรณ์..
-อุทธรณ์คุณสมบัติผู้ยื่นข้อเสนอราคารายอื่นท่ีเข้าจัดซื้อจัดจ้างในครั้งนั้น วิธี e-market
-กรณีหน่วยงานจัดให้มีการร่างประกาศเพื่อรับฟังความเห็นเกี่ยวกับ TOR และผู้ประกอบการหรือผู้อุทธณ์รายนั้น ไม่ได้ประชาพิจารณ์หรือเสนอความเห็นใดๆไว้ในร่างTOR นั้น จะไม่มีสิทธิอุทธรณ์ในเรื่องนั้นๆ
(3) ผู้อุทธรณ์ต้อง ลงลายมือชื่อ ใช้ถ้อยคำที่สุภาพ ระบุข้อเท็จจริง และสาเหตุอันเป็นเหตุอุทธรณ์ พร้อมแนบหลักฐานไปด้วย....
(4) การอุทธรณ์ ต้องยื่นต่อหน่วยงานของรัฐนั้นๆภายใน 7 วัน นับแต่วันประกาศผลการจัดซื้อจัดจ้าง/หรีือประกาศผลผู้ชนะในระบบ e-gp
(5) หน่วยงานของรัฐต้องวินิจฉัยให้เสร็จภายใน 7 วันทำการ
(6) ในกรร๊หน่วยงานของรัฐ ไม่รับอุทธรณ์หรือไม่เ้ห็นด้วยกับคำอุทธรณ์ ให้รายงานคณะกรรมการพิจารณาคำอุทธรณ์ภายใน 3 วันทำการ
(7) ให้คณะกรรมการพิจารณาคำอุทธรณ์ให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน หากไม่เสร็จขยายเวลาได้ไม่เกิน 2 ครั้งๆละ 15 วัน พร้อมแจ้งผู้อุทธรณ์ทราบด้วย
(8) การพิจารณาววินิจฉัย ของคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ถือเป็นท่ีสุด....
(9) หากผู้อุทธรณ์ไม่พอใจคำพิจารณาของคณะกรรมการ
ผู้นั้นมีสิทธิฟ้องร้องคดีต่อศาล เพื่อเรียกร้องค่าเสียหายได้....
แต่การฟ้องคดีดังกล่าว ไม่มีมีผลกระทบการจัดซื้อจัดจ้างที่หน่วยงานได้ลงนามในสัญญาจัดซื้อจัดจ้างนั้นแล้ว.......
เหล่านี้คือ หลักการ/ข้อคิด หรือความรู้ ขั้นตอนการพิจารณา ข้อร้องเรียน หรือคำอุทธรณ์...
สรุปว่า (1) การร้องเรียน ...ใคร/ผู้ใด ก็ร้องเรียได้.....ตามท่ีอธิบายไว้แล้วข้างต้น..
(2) แต่การอุทธรณ์ ผู้จะอุทธรณ์ต้องเป็นผู้ท่ีท่ีเข้ายื่นข้อเสนอในการจัดซื้อจัดจ้างในครั้งนั้นๆ ...เท่านั้น
(3) การจัดซื้อจัดจ้างโดยวิธี ดังต่อไปนี้ จะทำสัญญาได้ต้อง....ต้องรอก่อน 7 วันทำการ จึงจะทำสัญญาได้ (ต้องดูว่าไม่มีใคอุทธรณ์แล้ว) มาตรา 66 วรรคสอง
วิํีธี e-market / สอบราคา / วิธี e-bidding
วิธีคัดเลือก...
เรื่อง ข้อร้องเรียน/ และการอุทธรณ์ คงพอเข้าใจบ้างในเบื้องต้น ก็คงเสริมองคต์ความรู้ให้เพื่อนๆ เพียนงแค่นี้ก่อน ครับ...................
เพชร โพสาราช
29/10/2560
เขียนโดย คุณ อบต.โพกรวม
วันที่ 30 ต.ค. 2560 เวลา 09.23 น. [ IP : 110.77.188.67 ]
|